ประวัติกุมารทอง

กุมารทอง

ประวัติกุมารทอง 
กุมารทองคือ
เครื่องรางชนิดหนึ่งที่มีวิญญานของเด็กสิงสถิตอยู่ กุมารทองนี้ให้ได้ทั้งโชคลาภ ความร่ำรวย เมตตา มหานิยม และยังเป็นมหาเสน่ห์ได้อีกด้วย
กำเนิดกุมารทอง
  กุมารทองนั้นเป็นของขลังที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล สืบ ทอดกันมาหลายร้อยปี ดั่งที่เห็นชัดก็ยุคขุนแผนครับตำนานกุมารทองจากวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน นั้นได้กล่าวถึงกำเนิดของกุมารทองไว้ตอนหนึ่งว่า ขุนแผนจับได้ว่านางบัวคลี่เมียของตนคิดวางยาพิษเพื่อจะฆ่าตน จึงได้ลงมือฆ่านางบัวคลี่ แล้วจึงผ่าท้องของนางเพื่อเอาบุตรชายภายในท้องนั้นมาทำเป็นกุมารทอง โดยทำพิธีในย่างศพเด็กและปิดทองคำเปลวจนกระทั่งกลายเป็นกุมารทองแล้วใส่ห่อผ้าไว้ไปไหนพาไปด้วย กุมาร ทองจัดได้ว่าสำคัญกับขุนแผนมาก เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือขุนแผนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่ากุมารทองนั้นก็คือลูกคนหนึ่งของขุนแผนนั่นเอง
  ตำนานกุมารทองเพชรฆาต
 
  กุมารทองนั้นมี 2 ประเภทคือ กุมารทองประเภทแรกนั้นจะมีความดุร้ายอยู่มาก มีฤทธิ์ทางด้านทำร้ายศัตรู แบ่งได้เป็น 4 ชนิดด้วยกัน คือ 1.เพชรมั่น 2.เพชรดับ 3.เพชรคง 4.เพชรสูญ กุมารทั้ง 4 ชนิดนี้ เรียกโดยรวมว่า “เพชรภูติงาน” หรือ “เพชรปราบ” มีไว้สังหารหรือทำร้ายศัตรูโดยเฉพาะ ตาม ตำรากล่าวไว้ว่าการสร้างกุมารทองชนิดนี้จะใช้การอัญเชิญของพวกผีตายโหงหรือ ปีศาจให้มาสถิตอยู่ในหุ่นกุมารทอง ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะมีวิธีการทำร้ายศัตรูที่ต่างกันไป กุมารทองเพชรสูญจะมีฤทธิ์ในการทำให้คนกลายเป็นบ้า กุมารทองเพชรคงและเพชรมั่นนั้นจะดีในทางด้านเฝ้าบ้านเรือนด้วยการฆ่าคนแปลก หน้าที่มาบุกรุกบ้าน สิ่งที่ปราบกุมารทองเพชรมั่น ได้นั้นได้แก่วัวธนูที่ทำจากไม้ไผ่หามผี แต่กุมารทองเพชรคงจะมีฤทธิ์สูงกว่ากุมารทองเพชรมั่นเพราะสามารถเอาชนะได้ หรือแม้กระทั่งที่ทำจากครั่ง สิ่งที่เดียวที่จะหยุดได้คือวัวธนูทองแดง ยิ่งไปกว่านั้นกุมารทองเพชรคงยังมีอำนาจในการไล่ตามศัตรูได้ในขณะที่กุมาร ทองเพชรมั่นจะอยู่แต่ภายในอาณาเขตบ้านเท่านั้น กุมาร ทองเพชรดับเป็นเพชรฆาตเลือดเย็นที่สามารถหักคอศัตรูอย่างรวดเร็วฉับพลัน เหมือนนักฆ่ามืออาชีพมีไว้สำหรับปลิดชีวิตศัตรูโดยเฉพาะ กุมารทองจำพวกนี้ยังคงนิยมอยู่ในเฉพาะนักไสยเวทย์มนต์ดำที่เก่งกล้าหรือแถบ เขมรและอิสลาม ไม่ได้นิยมในหมู่นักสะสมเครื่องรางทั่วไป กุมารทองโชคลาภเมตตามหานิยม
  กุมารทองอีกประเภทหนึ่งนั้นมีไว้เฝ้าบ้าน เรียกลูกค้า เป็นเมตตามหานิยม ไม่มีชื่อเรียกโดยเฉพาะ โดยทั่วไปนั้นผู้บูชาจะตั้งชื่อเอง โดยจะตั้งชื่อที่เป็นมงคล เรียกทรัพย์ต่างๆ กุมาร ทองชนิดนี้จะไม่มีความดุร้ายสามารถเลี้ยงกันได้ทุกคนไม่มีอันตรายเหมือน อย่างกุมารทองทองชนิดข้างต้น กุมารทองด้านเมตตาที่สร้างโดยอาจารย์รุ่นเก่าที่ขึ้นชื่อว่าขลังได้แก่หลวง พ่อเต๋ วัดสามง่าม ซึ่งถือเป็นกุมารทอง ยอดนิยมอันดับหนึ่ง กุมารทองของท่านรุนแรกๆ ราคานับแสนบาท แต่ปัจจุบันนี้คือหลวงพ่อแย้มซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเต๋ ก็เรียนวิชาสร้างกุมารครบเม็ดกระบวนความ ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน กุมารทองทางเมตตานี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านของการเฝ้าบ้าน เรียกลูกค้าเข้าร้าน ช่วยค้าขายดี ช่วยเรือกนาไร่สวนให้มีผลิตผลดี
ชนิดต่างๆของกุมารทอง 
1.กุมาร ทองมหาภูติ สร้างจากวัสดุอาถรรพณ์ เช่น กระดูก ผงพรายกุมาร น้ำมันพราย หรือแม้แต่พวกลูกกรอก สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าเป็นธาตุอาถรรพณ์ที่มีวิญญาณอยู่ในตัวของมันเอง นำมาประกอบเป็นรูปกุมารทอง แล้วปลุกเสกหนุนธาตุ หนุนอาการขึ้น บางทีก็อาจใช้วิญญาณของเจ้าของวัตถุอาถรรพณ์ที่ทำการสะกดนั้นเลย กุมาร ทองชนิดนี้นิยมเลี้ยงกันในหมู่ของอาจารย์หมอไสยศาสตร์ที่มีวิชาอาคมสูงเท่า นั้น เพราะกุมารทองชนิดนี้มีอันตรายหากเลี้ยงไม่ดี คุมของไม่อยู่แล้วนั้น จะย้อนเข้าสู่ตนเองจนถึงแก่ชีวิต หรือกลายเป็นคนวิกลจริตได้เลย แต่ หากได้รับการสลายธาตุและปลุกเสกโดยพระสงฆ์ผู้มีพลังบารมีคุณวิเศษ คุมธาตุคุมพลัง กำกับไว้ดีแล้วจะเป็นฤทธิ์ทางภูติคุฯ ช่วยเหลือผู้คนได้ดี มีแต่คุณ
2.กุมารทองที่สร้างจากไม้อาถรรพณ์ อาทิ เช่น ว่านยาต่างๆ ว่านกุมารเป็นต้น ไม้ตายพราย ไม้ ยืนต้นตายพราย ไม้โดนฟ้าผ่าตาย ไม้ตกน้ำมัน ต้นไม้ใหญ่ที่มีรุกขเทวดา หรือไม้ที่มีพลังอำนาจหรือไม้มงคลบางชนิด บางที่อาจใช้ไม้กาฝากก็ได้ การสร้างกุมารทองชนิดนี้จำต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะมาก เพราะมีกรรมวิธีที่ยุ่งยากมาก ตั้งแต่การพลีกรรมไม้ การแกะหุ่น การปลุกเสก ผู้ที่กระทำพิธีจะต้องรักษาศีลอย่างเคร่งครัดจนมั่นใจว่ากายและใจบริสุทธิ์พอ จึงสามารถทำได้
3.กุมารทอง 9 โกฐิ เป็น กุมารทองที่มีพละกำลังและอิทธิบารมีมากกว่ากุมารทองทั้งมวลเนื่องจากเป็นเทพ ของกุมารทอง ผู้เสกต้องมีพลังจิตสูงมากๆ และการเสกจำต้องกระทำกันไม่ต่ำกว่า 3 ปี การสร้างย่อๆคือ ต้องหาโกฐิใส่กระดูกเด็กที่ตายด้วยอาการต่างๆ 9 ประเภทตามตำรา ภายในคืนเดียว แล้ว หลอมตะกั่วเหล่านั้นกับตัวยันต์ตำราบังคับพร้อมกับพญาว่านบางชนิดในฤกษ์ที่ แข็งที่สุดคือ ฤกษ์ที่เชื่อกันว่า บรมปู่ขุนแผนเสกกุมารทองในยามนี้ ยามเดือนดับของเดือน 5 นั้นเอง และต้องตรงกับวันเสาร์ จาก นั้นจะอุดด้วยผงปถมังโลกีย์กำเนิด อันต้องสร้างโดยผู้มีวิชาจริงๆ ผงนี้เล่าว่าหากตกลงบนตุ๊กตาเด็กก็จะกลายเป็นกุมารทองทันที จากนั้นจึงนำมาเสก ตามตำรากล่าวว่าต้องใช้เวลาเสกถึง 144 เสาร์ 144 อังคารตามกำลังของเทพกุมารบนสรวงสวรรค์ กุมาร ทองชนิดนี้หาคนทำยาก หากมีแล้วนั้นค่าบูชาจะสูงมากนับหมื่นนับแสนทีเดียว ในอดีตมี พระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี สร้างไว้องค์เดียว…..
4. กุมารทองรักยม แกะจากไม้รักและไม้มะยม ตามตำนานของรัตตะกุมารและยมกะกุมาร อันเกิดจากวิชาสายพระฤๅษีโดยเฉพาะ เป็นการเอาไม้มงคลนามมาแกะเป็นกุมารสององค์แล้วเลี้ยงในน้ำมันจันทร์ หากน้ำมันแห้งเชื่อว่าจะเสื่อมอิทธิฤทธิ์ทันที อย่างไรก็ตามคนก็นิยมเลี้ยงกัน เนื่องจากเลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก ราคาถูกถมเถไป หา เช่ากันได้ไม่ยาก แต่ที่สร้างไว้ขึ้นชื่อมากที่สุดมี ของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเคน วัดเขาอีโต้ หลวงพ่อเพิ่ม วัดสามปลื้ม เป็นต้น5.กุมารทองพยนต์ เกิดจากการนำวัตถุอาถรรพณ์บางชนิดมาขึ้นรูปกุมารทอง เช่น ดิน 7,9 ป่าช้า ผงว่านยา หรือผงพุทธคุณของพระเกจิ หรือคณาจารย์ต่างๆ มาปลุกเสกลงเลขยันต์ เรียกรูปนาม และที่สำคัญคือการใช้วิชาธาตุ 4 หรือที่เรียกว่าการปั่นธาตุ ทางเหนือสายล้านนาเรียกว่า วิชาสี่ท่าห้าธาตุ จนเกิดเป็นวิญญาณหรือเจตภูตมีตัวมีตนสามารถช่วยเหลือคนได้ กุมาร ทองชนิดนี้หาคนสร้างยากเช่นกัน เนื่องจากมีข้อมูลและผู้สืบทอดวิชาน้อยไม่ชัดเจน ที่เห็นๆก็มี หลวงพ่อเต๋ และหลวงพ่อแย้มวัดสามง่าม หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติเท่านั้น
วิญญาน 3 ชนิด
การสร้างกุมารทองนั้นแบ่งออกหลักๆเป็น 3 วิธีการสร้างคือ 
  1. สร้างด้วยดิน 7 ป่าช้า ผสมผงพรายกุมาร ผงพรายกุมารนั้นคือผงที่ได้จากการเอากระดูกเด็กมาป่นละเอียดผสมกับผงอิทธิเจ และปถมัง กุมารประเภทนี้จะเฮี้ยนและแรงที่สุด แต่มีทั้งคุณและโทษภายในตัว วิญญานที่เชิญลงมานั้นมักเป็นวิญญานในป่าช้า หรือเป็นวิญญานเด็กที่ติดอยู่กับผงพรายกุมารนั่นเอง กุมารประเภทนี้ต้องเซ่นไหว้ให้ดี และหากเวลาผ่านไปนานวันวิญญานภายในตัวกุมารก็สามารถโตขึ้นได้
  2. การสร้างด้วยเนื้อดินหรือเนื้อไม้แล้วเชิญญานเทพลงมา กุมารประเภทนี้มักจะไม่ค่อยแสดงตัวเหมือนอย่างแรก เพราะเป็นเทพไม่ต้องเสพอาหารหยาบ ปกติมักปลุกเสกรวมกับพระเครื่อง
  3. สร้าง ด้วยไม้ตายพราย ที่นิยมนั้นมักจะสร้างด้วยเนื้อไม้รักซ้อมตายพรายและไม่มะยมตายพราย เพราะถือว่าไม้ตายพรายนั้นเป็นไม้เทพสถิต มีความขลังอยู่ในตัวแม้ไม่ต้องปลุกเสก เมื่อได้ไม้ชนิดนี้มานั้นอาจารย์ผู้เสกจะประจุอาคมพระเวทย์ จิต ตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกอาการ 32 เรียกนาม จนเกิดเป็นวิญญานอุบัติขึ้นมา วิญญานที่เกิดขึ้นมานั้นจะเรียกว่าพราย คือไม่รู้จักโต พรายพวกนี้จะไม่ทำร้ายผู้ใด แต่ถ้าขาดการดูแลจะอ่อนกำลังและสลายไปในที่สุด
วิธีการติดต่อกับกุมารทอง 
    วิธี การติดต่อระหว่างผู้เลี้ยงกุมารทองกับกุมารทอง ก็คือการเรียกชื่อเขา เรียกด้วยจิต เวลาขออะไรใจต้องนิ่ง มีสมาธิดี จุดเทียน จุดธูป บอกเขา หากรู้สึกเสียวสันหลังวาบ หรือขนลุดซู่นั่นแหละเขามาแล้ว ขออะไรไปได้เรื่องแน่ บางทีกุมารทองก็จะมากระซิบข้างหู แต่ไม่เห็นตัว เพียงแต่มีความรู้สึก หรือบางทีถ้าจิตของใครที่อ่อนไหวง่าย กุมารทองก็จะสิงร่างของผู้นั้นได้ง่าย บางทีก็เข้าฝัน บอกโชค บอกหวยได้ ก็มีให็เห็นกันบ่อย
การบูชากุมารทอง
      การบูชานั้นทำโดยการตั้งเครื่องบูชา เทียน 2 เล่ม ธูปจะจุด 1 -5 หรือ 9 ดอก ก็ได้ตามสะดวก ของเซ่นไหว้ประกอบด้วยข้าวปากหม้อ ไข่ต้ม น้ำหวาน น้ำเขียว น้ำแดง นม ขนมหวาน ขนมปัง เบเกอรี่ก็ได้ ไม่ควรถวายของคาวเหล้ายาปลาปิ้งเด็ดขาด เขาเป็นภูติเด็ก ไม่ใช่ผีพรายผู้ใหญ่ นอกจากนี้หากว่าบนสิ่งใดไว้ก็ให้ตอบแทนตามสิ่งที่บนมาเช่น ให้ของเล่น หรือให้สร้อยทอง ตามที่เราได้บนเอาไว้  สำหรับการ ถวายนั้นให้เราตกลงกับกุมารทองเอาว่าเราสะดวกวันไหน เช่นเราตกลงกับกุมารทองไว้ว่าจะถวายข้าวทุกๆวันพระเราก็ต้องให้เค้าทุกๆวัน พระ เพราะกุมารทองเป็นกายทิพย์ถือเรื่องสัจจะเป็นสำคัญ แต่ถ้าหากไม่มีเวลาให้เราบอกเค้าไว้ว่า เวลาไปไหนก็ให้ไปด้วยกันกินอะไรก็กินด้วยกัน ถ้าได้ผลแล้วควรทำบุญทำทานถวายสังฆทานอุทิศไปให้เขาด้วย ฤทธิ์จะแรงขึ้นเรื่อยๆ

ใส่ความเห็น